“สุวัจน์”เป็นประธานกฐิน เทศบาลนคร โคราช “วัดป่าจิตตสามัคคี”
“สุวัจน์” มองงานเลี้ยงรัฐบาล สาระคือการสร้างความสามัคคี และหาทางแก้ปัญหาของชาติ

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานทอดกฐินของเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นเจ้าภาพ ณ วัดป่าจิตตสามัคคี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา อดีต รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรี นครนครราชสีมา ทีม ส.ส, ส.จ.,ส.ท.พรรคชาติพัฒนา ร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวโคราช

นายสุวัจน์ กล่าวว่า แม้สถานการณ์ตอนนี้ทุกคนจะยากลำบากทั้งเรื่องวิกฤติโควิด วิกฤติเศรษฐกิจ และมาเจอวิกฤติน้ำท่วม แต่พลังศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะงานบุญกฐินซึ่งถือว่าเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ เพราะในปีหนึ่งแต่ละวัดจะรับกฐินได้เพียงครั้งเดียว วันนี้ เป็นโอกาสอันดีได้มาร่วมบุญกฐินที่วัดป่าจิตตสามัคคี ซึ่งเทศบาลฯโคราช เป็นเจ้าภาพร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวโคราชจำนวนมาก มียอดกฐิน จำนวน 923,350 บาท

ส่วนเรื่องโควิด-19 นั้น นายสุวัจน์ กล่าว่าสถานการณ์ภาพร่วมตอนนี้เราฉีดวัคซีนกันทั่วประเทศแล้วประมาณ 80 ล้านโดส เรามีเป้าหมายไว้ 100 ล้านโดส ซึ่งตอนนี้เราได้ฉีดเข็ม 2 เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราฉีดได้ 100 ล้านโดส เมื่อไหร่ประเทศไทยเราก็จะมีภูมิคุ้มกันหมู่ เรื่องโควิดก็จะเบาลง และถึงติดก็สามารถรักษาหายได้ ซึ่งตอนนี้ก็มีการค้นพบยารุ่นใหม่ที่รักษาและป้องกันโควิด-19 ได้แล้ว ซึ่งต้องขอบคุณเทศบาลนครนครราชสีมา โดยนายกฯ ประเสริฐ บุญชัยสุข มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนได้มีการจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม 22,000 โดส สามารถฉีดให้ประชาชนได้ 1,100 คน ทำให้ประชาชนในเขตเทศบาลฯ เราสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

ซึ่งตอนนี้เราก็เริ่มเปิดประเทศแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเราได้กลับมานับ 1 กันใหม่ ผู้ประกอบการได้เริ่มกลับมาเปิดตัว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชาวโอทอปก็เป็นการฟื้นตัว และทำให้พี่น้องประชาชนเบาใจ จากการเปิดประเทศ

“ตนก็คิดว่าเป็นทิศทางที่ถูกต้องที่เราได้เริ่มเปิดประเทศ แต่ตอนนี้ก็ต้องคอยติดตามดูว่าผลกระทบจากโควิดเป็นอย่างไร ผลกระทบทางเศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ จะต้องมีมาตรการเพิ่มเติมแก้ไขปรับปรุงอะไรบ้างก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการกัน” สุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า

ที่สำคัญ ช่วงที่เจอสถานการณ์โควิด เราได้เห็นน้ำใจของพี่น้องคนโคราช ออกมาช่วยกันไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติพัฒนา, ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน,ทีมโคราชชาติพัฒนา รวมทั้งทางเทศบาลฯ โคราช เราได้ระดมการช่วยเหลือโดยจัดทำ หน้ากากอนามัย, แจกแอลกฮอล์เจล และสเปย์, จัดทำครัวหลวงพ่อคูณ ทำอาหารมาแจก และยังมีการแจกต้นฟ้าทะลายโจร และการแจกแคปซูลฟ้าทะลายโจร รวมทั้งมีการสร้างหน่วยกู้ภัยสู้โควิด-19 ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะโควิดป้องกันไม่ได้ แต่ใจเราสู้ เราต้องสร้างกำลังใจ เพื่อต่อสู้กับโควิด เรื่องเศรษฐกิจ และการลงทุน ถ้าคนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เราจะชนะทุกวิกฤติ

สำหรับประเด็นการเมือง เรื่องที่รัฐบาลจะเรียกพรรคร่วมมาดินเนอร์นั้น นายสุวัจน์ มองว่าถ้ามีโอกาสที่จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลมาพบกันก็จะมีผลดีกับเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะเรื่องเสียงในรัฐสภามีความสำคัญเป็นอันมาก

วันนี้รัฐบาลเหลือเวลาทำงานอีกปีกว่าๆ เป็นการทำงานบนวิกฤติของประเทศที่พี่น้องในประเทศฝากความหวัง วิกฤติโควิด วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติน้ำท่วม ซึ่งเป็นวิกฤติที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และการเจริญเติบโตของประเทศ รัฐบาลต้องทำงานอย่างหนัก แต่ถ้ารัฐบาลขาดเสถียรภาพ กลไกต่างๆ ก็ไม่สนับสนุนให้ไปสู่เป้าหมายได้ ซึ่งการทำงานในรัฐสภาเป็นการทำงานอีกอย่างที่ต้องดูแลด้วยนอกจากเรื่องบริหาร เพราะในสภาเป็นเรื่องของการผ่านกฎหมาย เป็นเรื่องการชี้แจงเรื่องญัตติ เรื่องกระทู้ เรื่องการตอบข้อคิดเห็นต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง หรือกลไกกฎหมายที่จะไปแก้ไขปัญหาต่างๆ ถ้ารัฐสภาไม่มีเสถียรภาพ หรือการประชุมสภายังมีปัญหาอยู่ ก็จะทำให้การบริหารทำงานไม่ราบรื่น ในวิกฤติบ้านเมืองที่เหลือ 1 ปี เสถียรภาพรัฐบาล มีความสำคัญ ที่จะทำให้รัฐบาลไปสู่เป้าหมาย ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติให้มากที่สุด

ดังนั้น ในโอกาสที่พรรครัฐบาลจะได้พูดคุยกัน หรือแม้แต่การเมือง ตอนนี้มีความสำคัญมาก ซึ่งไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกัน หรือมีความไม่เข้าใจกัน การเจอกันในงานเลี้ยงต่างๆ ก็จะทำให้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจกัน ซึ่งได้รับไอเดียที่ดีเพราะทุกคนก็ได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกผู้แทนราษฏร ทุกคนอยู่ที่พื้นที่และพบพี่น้องประชาชน ทำให้รู้ว่าพี่น้องประชาชนต้องการอะไร มีปัญหาอะไร หรือแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ได้มีพบปะ มาพูดคุยหรือมีการเสนอ หรือใครมีไอเดียดีๆ ที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลดีขึ้น ก็เป็นประโยชน์และก่อให้เกิดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นสิ่งที่ดี

นายสุวัจน์ บอกว่า การเมืองสมัยก่อนจะเจอกันบ่อยมาก เพราะเรามีพรรคร่วมหลายพรรค และเราก็จะมีประเพณีหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ เจอกันบ่อย ฉะนั้น เสถียรภาพในการเมืองรุ่นก่อนๆ จะมีความใกล้ชิดกันพอสมควร จะไม่ค่อยมีปัญหาฉะนั้น ถ้ามีการจัดและเชิญพรรคร่วมรัฐบาลมาพบปะพูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ว่าเราจะทำอะไรให้บ้านเมือง ประชาชนเดือดร้อนอะไร พวกเราจะมีความร่วมมือกันอย่างไร หรือการสร้างความเข้มแข็งให้กับรัฐบาล เพราะทุกวันของรัฐบาลมีคุณค่ากับประชาชนมาก

suwat“สุวัจน์”เป็นประธานกฐิน เทศบาลนคร โคราช “วัดป่าจิตตสามัคคี”