เอาอยู่ ! เทศบาลนครโคราช คุม 2 คลัสเตอร์ใหญ่ ไม่ให้โควิดกระจายออกนอกจุดแพร่ระบาดได้แล้ว
นครราชสีมา-นายไกรสีห์ หล่อธราประเสริฐ รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ล่าสุดวันนี้ (11 กันยายน 2564) ว่า มีคลัสเตอร์ที่เฝ้าจับตาเป็นพิเศษอยู่ 2 คลัสเตอร์ ได้แก่ คลัสเตอร์ชุมชนทุ่งสว่าง กับ คลัสเตอร์โรงงานแปรรูปอาหาร ปึงหงี่เชียง ซึ่งสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้แล้วทั้ง 2 คลัสเตอร์ โดยคลัสเตอร์ชุมชนทุ่งสว่าง ตัวเลขผู้ติดเชื้อหยุดอยู่ที่ 56 ราย แต่ยังเหลือกลุ่มเสี่ยงที่กักตัว 14 วันและต้องตรวจซ้ำอีกจำนวนหนึ่ง อาจจะมีเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย โดยภาพรวมถือว่าสถานการณ์นิ่ง สามารถควบคุมพื้นที่ได้แล้ว ไม่มีการแพร่กระจายเชื้อออกไปข้างนอก จึงทำให้ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มในชุมชนนี้อีก ทั้งนี้ เทศบาลนครฯ ยังได้บล็อกพื้นที่ชุมชนทุ่งสว่างและชุมชนข้างเคียงไว้ด้วย รวม 6 ชุมชน เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดเพิ่มเติม ทั้งชุมชนทุ่งสว่าง , ชุมชนทุ่งสว่าง-ศาลาลอย , ชุมชนศาลาลอยพัฒนา , ชุมชนศาลาลอย , ชุมชนท้าวสุระ ซอย 3 และชุมชนศาลเจ้าพ่อเสือ
ซึ่งประชากรกลุ่มเสี่ยงที่นำมาตรวจหาเชื้อเชิงรุก ATK จะมีประมาณ 10 % หรือประมาณ 396 คน จากจำนวนประชากรในชุมชนติดกันกับชุมชนทุ่งสว่าง ที่ขีดวงรัศมีการแพร่ระบาดเอาไว้ประมาณ 3,000 กว่าคน ซึ่งหากพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 10% ก็จะต้องตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 3,000 กว่าคน แต่เนื่องจากผลตรวจใน 10 % พบผู้ติดเชื้อแค่ 2 รายเท่านั้น จึงถือว่าควบคุมการแพร่ระบาดไว้ในวงจำกัดได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังต่อ เพราะยังมีกลุ่มเสี่ยงที่กักตัวอยู่ ส่วนประชาชนที่อยู่นอกวงรัศมีแพร่ระบาดที่ขีดเอาไว้ ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาดได้จัดเจ้าหน้าที่ฯ ไปประจำ 24 ชั่วโมง บล็อกพื้นที่ปิดหัวซอย-ท้ายซอยเอาไว้ เพื่อควบคุมการเข้าออกชุมชน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ส่วนคลัสเตอร์โรงงานแปรรูปอาหาร ปึงหงี่เชียง จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมไปถึง ประชาชนที่ไปซื้อหาของฝาก แต่อยู่นอกเขตเทศบาลนครฯ ก็ได้ประสานแจ้งไปยัง รพ.สต. , สสอ. และเทศบาลที่เกี่ยวข้องให้ทราบ โดยเทศบาลนครฯ ได้ไปช่วยประเมินสถานการณ์ ตรวจเชิงรุกค้นหากลุ่มเสี่ยง รวมทั้ง ให้คำแนะนำโรงงานให้จำกัดพื้นที่เสี่ยง และให้นำกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 74 รายไปตรวจหาเชื้อ โดยพบว่าติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 15 ราย ได้นำเข้าสู่ระบบการดูแลรักษาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าโชคดี ที่ทางโรงงานมีการออกแบบพื้นที่ได้ดี แยกโซนผลิตแต่ละโซนออกจากกัน ทำให้ระบาดแค่เฉพาะส่วนเท่านั้น ไม่ได้ระบาดไปทั้งโงงาน ประกอบกับทีมสอบสวนโรคของสาธารณสุขฯ เข้าไปรับมือสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้สามารถควบคุมโรคได้เร็ว ทั้งนี้ ภายในโรงงานดังกล่าว จะปิดพื้นที่เฉพาะแผนกที่พบการระบาดเท่านั้น ถือว่าคลัสเตอร์นี้สถานการณ์นิ่ง ไม่มีการระบาดออกไปนอกโรงงานแล้ว
ทั้งนี้ 91 ชุมชนในเขตเทศบาลนครฯ จะมีบางรายเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง ซึ่งบางครั้งทำให้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม จึงยังคงต้องเฝ้าระวังและตรวจเช็คสถานการณ์ของแต่ละชุมชนอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกไป จนทำให้เกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นมาอีก นายไกรสีห์ ฯ กล่าว.
///ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา
Recent Comments