“เทวัญ” เชิญชวนชาวโคราช ร่วมงานหล่อท้าวสุรนารี ครบรอบ 251 ปี ระลึกคุณงามความดีคุณย่าโม

ขอเชิญพี่น้องประชาชนชาวโคราช ร่วมงานหล่อท้าวสุรนารี ย่าโม ครบรอบ 251 ปี เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีที่คุณย่าโม มีต่อวัดวาอารามและจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโคราช สู้โควิด

วันที่ 30 มีนาคม 2564 เวลา 9.30 น.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นายนัฏฐชัยฐ์ ธนกนกนนทณ์ รองนายกเทศมนตรีฯ นายอุทัย มิ่งขวัญ ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมาและคณะผู้บริหารสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา (ส.ท.) ลงพื้นที่พบปะกับคณะกรรมการชุมชน คณะกรรมการพัฒนาสตรี และอสม.ในพื้นที่ชุมชนร.ร.กีฬาเทศบาลฯ,วัดพายัพ,วัดโพธิ์,วัดหงษาราม,วัดสุทธจินดา และวัดหนองบัวรอง รวมทั้งหมด 19 ชุมชนในเขตเทศบาลฯ

นายเทวัญ กล่าวว่า “โครงการเวทีชุมชน ประจำปี 2565” ซึ่งเป็นโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองโคราช โดย 3 องค์กรหลักคือ กลุ่มชุมชน กลุ่มพัฒนาสตรีเมือง และอสม. ถือเป็น 3 ประสาน หัวใจหลัก หัวใจสำคัญ เพราะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชนในชุมชนมากที่สุด ในการที่จะสร้างความสามัคคี การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ในการพัฒนาเมืองโคราชให้เป็นเมืองน่าอยู่แบบยังยืน เราต้องร่วมมือกัน

“เราจะฝ่าวิกฤติโควิด เราจะขับเคลื่อนโคราชเป็นเมืองน่าอยู่ เป็นประตูอีสาน เป็นมหานครโคราชได้พี่น้องประชาชนชาวโคราชต้องร่วมมือกัน ต้องสามัคคีกัน ต้องร่วมแรงร่วมใจกัน และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองโคราชจะอาศัยเทศบาลฯ อย่างเดี่ยวไม่เพียงพอเพราะงบประมาณไม่พอ ต้องอาศัยงบประมาณจากรัฐบาลสนับสนุนเข้ามาซึ่งเป็นหน้าที่ผมและสส.โคราชทุกคนต้องช่วยกันผลักดันงบประมาณดังกล่าว
“สมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัญ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เรามีสส.มากถึง 52 คน มีเสียงในสภาผลักดันงบประมาณมาพัฒนาโคราช อาทิ โครงการขยายถนนมิตรภาพ โครงการน้ำประปา โครงการนิคมอุตสาหกรรม โครงการเศรษฐกิจโคราชคือประตูสู่อีสาน แต่ตอนนี้เรามีส.ส.4 คน ดังนั้น ต้องเพิ่มโควต้าส.ส.ให้พรรคชาติพัฒนา จะได้มาช่วยพี่น้องประชาชนพัฒนาโคราชได้เต็มที่”นายเทวัญ

โดยเฉพาะช่วงนี้เรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) สายพันธุ์ใหม่โอไมครอน ที่ไม่แสดงอาการและแพร่เชื้อได้ง่าย ส่วนใหญ่อาการไม่หนักเพราะทุกคนมีภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัดซีน แต่ก็อย่างประมาณ การ์ดต้องไม่ตก ก่อนหน้าที่ศูนย์ตนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันก็ได้ทำถุงน้ำใจ แจกจ่ายให้พี่น้องประชาชนชาวโคราช และล่าสุด ทางสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับเทศบาลโคราชจัดทำถุงหยุดเชื้อ เพื่อโคราช ประกอบเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย เรียกว่าติดอาวุธทางการแพทย์แจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนขาวโคราชทุกชุมชนในเขตเทศบาลโคราช

นายเทวัญ กล่าวว่าโควิด ส่งผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบ เดือดร้อนกันหมด เราต้องเปิดประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเราเคยมีนักท่องเที่ยวปีละ 30-50 ล้านคน ถ้าไม่ติดโควิด เราจะมีนักท่องเที่ยวปีหนึ่ง 40 ล้านคน ซึ่งนักท่องเที่ยว 1 คนจะมีการจับจ่ายใช้เงินต่อคนประมาณ 50,000 บาท จากการสำรวจ เท่ากับมีเงินหมุนเวียนในการท่องเที่ยว 2 ล้านล้าน หมุนอยู่ในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านสปา แหล่งท่องเที่ยว ช้อปปี้ง แต่ ณ วันนี้ เป็น 0 รัฐบาลตอนนี้ก็มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาก็มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นโครงคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน หลายๆโครงการ

“ถ้าวันนี้ยังปิดเศรษฐกิจแย่ อาจจะต้องยอมเปิด เพื่อให้มันผ่อนคลาย ตอนนี้ถ้าใครค้าขายเงียบหมด เราต้องยอมเปิดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เราก็ต้องร่วมมือเทศบาลด้วย ให้ทางเทศบาลจัดงานเทศกาลและกิจกรรมเยอะๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดสงกรานต์ตามประเพณี จัดแห่เทียนเข้าพรรษา งานนี้ต้องจัดใหญ่ให้นักท่องเที่ยวแห่มาดูขบวนเทียนพรรษาที่สวยงามที่สุดในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของโคราช”นายเทวัญ กล่าว และย้ำว่า

“เราจะฝ่าวิกฤติโควิด เราจะขับเคลื่อนโคราชเป็นเมืองน่าอยู่ เป็นประตูอีสาน เป็นมหานครโคราชได้พี่น้องประชาชนชาวโคราชต้องร่วมมือกัน ต้องสามัคคีกัน ต้องร่วมแรงร่วมใจกัน และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองโคราชจะอาศัยเทศบาลฯ อย่างเดี่ยวไม่เพียงพอเพราะงบประมาณไม่พอ ต้องอาศัยงบประมาณจากรัฐบาลสนับสนุนเข้ามาซึ่งเป็นหน้าที่ผมและสส.โคราชทุกคนต้องช่วยกันผลักดันงบประมาณดังกล่าว
“สมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัญ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เรามีสส.มากถึง 52 คน มีเสียงในสภาผลักดันงบประมาณมาพัฒนาโคราช อาทิ โครงการขยายถนนมิตรภาพ โครงการน้ำประปา โครงการนิคมอุตสาหกรรม โครงการเศรษฐกิจโคราชคือประตูสู่อีสาน แต่ตอนนี้เรามีส.ส.4 คน ดังนั้น ต้องเพิ่มโควต้าส.ส.ให้พรรคชาติพัฒนา จะได้มาช่วยพี่น้องประชาชนพัฒนาโคราชได้เต็มที่”นายเทวัญ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าเราอาจจะต้องยอมเปิดประเทศ เพื่อให้มันผ่อนคลายตอนนี้ถ้าใครค้าขายเงียบหมด เราต้องยอมเปิดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เราก็ต้องร่วมมือกับเทศบาลในการงานเทศกาลและกิจกรรมเยอะๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดสงกรานต์ตามประเพณี จัดแห่เทียนเข้าพรรษา งานนี้ต้องจัดใหญ่ให้นักท่องเที่ยวแห่มาดูขบวนเทียนพรรษาที่สวยงามที่สุดในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของโคราช อย่างในวันที่ 2 เมษายนนี้ ทางวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร จังหวัดนครราชสีมา จัดงานหล่อท้าวสุรนารี ย่าโม ครบรอบ 251 ปี

“ผมขอเชิญพี่น้องประชาชนชาวโคราช ร่วมงานหล่อท้าวสุรนารี ย่าโม ครบรอบ 251 ปี เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีที่คุณย่าโม มีต่อวัดวาอารามและจังหวัดนครราชสีมา และเป็นที่กราบสักการะบูชาของบุคคลที่เคารพและศรัทธาในท้าวสุรนารี อันนี้ก็เป็นโครงการหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโคราช สู้โควิด”นายเทวัญ กล่าว

ทั้งนี้ วันที่ 12 เมษายน 2565 เวลา 19.00 น.ที่วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร จังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญร่วมงานหล่อท้าวสุรนารี ย่าโม ครบรอบ 251 ปี เนื่องจากในอดีตท่านท้าวสุรนารี มีความสัมพันธ์กับวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ชื่อเดิมวัดกลางนคร เป็นวัดตั้งอยู่ใจกลางเมืองจังหวัดนครราชสีมา เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปสำคัญประจำจังหวัด ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารใจกลางวัด เป็นที่กราบสักการะของผู้มีจิตศรัทธาชาวจังหวัดนครราชสีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ที่สำคัญ มีศาลหลักเมือง จังหวัดนครราชสีมา อยู่ทางทิศตะวันตก มีเทวสถานศาลพระนารายณ์ อยู่ทางทิศตะวันออก และมีนิวาสสถานหรือบ้านพักอาศัยของท่านท้าวสุรนารี อยู่ตรงข้ามกับวัดพระนารายณ์ในทางทิศใต้

ในสมัยก่อนนั้น คุณหญิงโม ถือว่าเป็นมหาอุบาสิกาที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
เข้าวัดฟังธรรมรักษาศีลอยู่เป็นเนืองนิจ บำรุงพระพุทธศาสนาสร้างวัดวาอารามอยู่เป็นประจำ
เมื่อครั้ง ท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2395 (เดือน 5 ปีชวด จัตวาศก จศ. 1214) สิริรวมอายุได้ 81 ปี อัฐิกระดูกของท้าวสุรนารีนั้นได้บรรจุไว้ ณ วัดพระนารายณ์ มหาราช
อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งตรงข้ามกับนิวาสสถานบ้านพักพระยากำธรพายัพทิศ
ต่อมาเมื่อราวปี 2477 พระยากำธรพายัพทิศ (ดิส อินทโสฬส ณ ราชสีมา)…เจ้าเมืองนครราชสีมาคนสุดท้าย ได้อัญเชิญไปบรรจุ ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จนถึงปีปัจจุบัน

ดังนั้น ทางวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร จึงได้ดำเนินการจัดสร้างรูปหล่อท้าวสุรนารี เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีที่มีต่อวัดวาอารามและจังหวัดนครราชสีมา และเป็นที่กราบสักการะบูชาของบุคคลที่เคารพและศรัทธาในท้าวสุรนารี