สุวัจน์ ปฐมนิเทศ นศ.ใหม่ ม.ราชภัฎนครราชสีมา ปีการศึกษา 2567 ขอให้มีความตั้งใจเล่าเรียนและประสบความสำเร็จ เพื่อพัฒนาประเทศชาติในอนาคต

สุวัจน์ ปฐมนิเทศ นศ.ใหม่ ม.ราชภัฎนครราชสีมา ปีการศึกษา 2567 ขอให้มีความตั้งใจเล่าเรียนและประสบความสำเร็จ เพื่อพัฒนาประเทศชาติในอนาคต

วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวปฐมนิเทศและพิธีบายศรีสู่ขวัญนักศึกษาใหม่ ภาคปกติ ประมาณ 4,000 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
“NRRU Fresh Start 2024 : Step into Success” ว่ายินดีกับนักศึกษาทุกท่านที่ได้มีโอกาสเข้ามารับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ก็อยากให้นักศึกษาทุกท่านได้มีความภาคภูมิใจ ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งมีอายุมามากกว่าร้อยปี และได้มีการพัฒนาในหลายๆ ด้านในเรื่องของการศึกษาต่างๆ

นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันนี้ เป็นโอกาสดีที่มีการปฐมนิเทศ และนักเรียนนักศึกษาทุกคนได้มีโอกาสพบกับท่านนายกรัฐมนตรี เพราะว่าวันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร คณะรัฐมนตรีปกติประชุมที่กรุงเทพฯ แต่ว่ารัฐบาลก็อยากที่จะมารับฟัง มาได้เห็นปัญหาต่างๆในชนบทก็เลยมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปประชุม ครม.ตามจังหวัดต่างๆที่สำคัญ ในครั้งนี้ได้เลือกจังหวัดนครราชสีมา เพื่อที่จะมาดูปัญหาต่างๆ ของทั้ง 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ที่เราเรียกว่า “นครชัยบุรินทร์” และเป็นเกียรติกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่คณะรัฐมนตรีได้เลือกมหาวิทยาลัยเป็นสถานที่ประชุม เพราะเราเพิ่งได้มีการก่อสร้างหอประชุมแห่งใหม่ซึ่งมีความจุถึง 5,000 ที่นั่ง เรียกว่าแทบจะใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน

“ผมได้มีโอกาสรับประทานอาหารร่วมกับท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีหลายๆ ท่านได้รับคำชมว่ามาประชุมที่โคราช สถานที่ดีมาก อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ท่านยินดีและเป็นเกียรติ”

นอกจาก หอประชุมแห่งนี้จะใช้ในการต้อนรับการประชุมครม.แล้วในเดือนสิงหาคมนี้ สถานที่แห่งนี้ก็จะเป็นสถานที่ในการรับพระราชทานปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏในภาคอีสาน ฉะนั้น อยากให้นักศึกษาได้ภาคภูมิใจในการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ของมหาวิทยาลัย ส่วนสํานักงานวิชาการคณะครูอาจารย์ต่างๆ ได้เตรียมหลักสูตรเตรียมวิชาการต่างๆ เอาไว้ให้อย่างพร้อมทุกด้าน และอยากจะให้นักศึกษาทุกท่านได้ตั้งใจในการที่จะใช้ความรู้ความสามารถที่ได้จากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอีก 4 ปีข้างหน้า

“วันนี้ ทุกคนคงจะทราบว่าเรามีเรื่องสองเรื่องเป็นเรื่องบ้านเมือง กับสองเรื่องของพื้นที่ภาคอีสาน เรื่องเศรษฐกิจโดยภาพรวม วันนี้เศรษฐกิจประเทศไม่ค่อยจะดี
เพราะว่า GDP หรือการเติบโตทางเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ดีนัก ตอนนี้อยู่ประมาณ 1.5 เปอร์เซ็นต์ ในชาติอาเซียน 10 ประเทศ เราอยู่ระดับที่ 9 ก็จะมีปัญหาเรื่องหนี้สิน มีผลกระทบจากเศรษฐกิจต่างๆอันเนื่องมาจากโควิด วันนี้เศรษฐกิจเรายังไม่ดี และเศรษฐกิจโลกก็ยังไม่ดี เรามีปัญหาเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ มีปัญหาเรื่องสงคราม มีปัญหาเรื่องเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีปัญหาเรื่องราคาพลังงาน มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ
ดังนั้น ปัญหาที่รุมเร้าทั้งโลก ร่วมทั้งปัญหาของประเทศ เป็นเรื่องที่เราจะต้องร่วมกันแก้ไข ฉะนั้น กำลังของประเทศที่ต่อไปจะต้องมาช่วยกันแก้ไขปัญหา รวมทั้งการพัฒนาด้วย อย่างเช่น ภาคอีสานหรือจังหวัดนครราชสีมาต่อไป จะต้องมีการลงทุน มีการท่องเที่ยวมากกว่านี้ เพราะเราจะมีโครงการใหญ่ๆ เมกะโปรเจ็คที่กําลังก่อสร้าง มีมอเตอร์เวย์ จากกรุงเทพฯ มาโคราช ซึ่งต้นปีนี้จะเปิดใช้เป็นโครงการตั้งแต่แสนล้าน มอเตอร์เวย์อันนี้ก็จะนำพานักลงทุน พานักท่องเที่ยวมาที่จังหวัดนครราชสีมา กําลังมีรถไฟความเร็วสูงมาโคราช มีรถไฟทางคู่ ฉะนั้น เมื่อโครงสร้างพื้นฐานเสร็จจะเป็นการพลิกโฉมภาคอีสาน พลิกโฉมจังหวัดนครราชสีมา ในเรื่องของการลงทุนการท่องเที่ยวต่างๆ ตอนนั้นเราก็ต้องเตรียมความพร้อม ในการที่จะพัฒนาเมือง และเตรียมความพร้อมในการที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศ ฉะนั้น ภารกิจต่างๆ ก็อยากให้นักศึกษาราชภัฏได้รับทราบ จะได้เตรียมตนในการที่จะใช้ความรู้ ความสามารถจากสถาบันแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศและเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคอีสาน และเกิดประโยชน์ต่อตนเอง และครอบครัวต่อไป

“ขอแสดงความยินดี ขอให้ทุกท่านได้ร่ำเรียนสําเร็จลุล่วงตามเจตนารมณ์ อีก 4 ปีข้างหน้า ขอให้ได้จบเป็นบัณฑิต เป็นหน้าเป็นตาให้จังหวัดนครรราชสีมา ภาคอีสาน และไม่ได้ทําประโยชน์ให้กับบ้านเมือง”นายสุวัจน์ กล่าว