สส.วรรณรัตน์ พรรคชาติพัฒนาอภิปรายติดตามท่าเรือบก โคราช เร่งรัฐบาลตัดสินใจให้โอกาสคนโคราช

สส.วรรณรัตน์ พรรคชาติพัฒนา อภิปรายติดตามท่าเรือบก โคราช เร่งรัฐบาลตัดสินใจให้โอกาสคนโคราช

วันที่ 22 สิงหาคม 2567 นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงการจัดตั้งท่าเรือบกนครราชสีมา ว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมมีนโยบายพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น และ จ.นครสวรรค์ เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าขนส่งสินค้า ลดความแออัดของท่าเรือแหลมฉบังและเป็นการสร้างโครงข่ายเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าของประเทศให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นกลไกเอื้อต่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ถือว่าเป็นการกำหนดยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องอย่างยิ่ง ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดแห่งหนึ่งที่จะสร้างท่าเรือบก

เพราะมีศักยภาพความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานตอนล่างในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งทั้งทางถนนและทางรางที่เชื่อมโยงกรุงเทพมหานครและท่าเรือแหลมฉบังไปสู่นครราชสีมาและภาคอีสาน และยังสามารถเชื่อมโยงไปถึง สปป.ลาวและจีนตอนใต้ในอนาคต นอกจากนั้น จ.นครราชสีมา ยังมีจุดแข็งที่สำคัญ คือ เป็นพื้นที่ที่มีสินค้าการเกษตรเพื่อการส่งออก ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง และน้ำตาล รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมที่เน้นการขนส่งภายในประเทศอีกด้วย เห็นได้จากร้อยละ 60 ของสินค้าส่งออกมาจากภาคอีสานตอนล่าง และจากการสำรวจพื้นที่พิจารณาด้านความพร้อมเบื้องต้นของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย รวมถึงสถาบันเครือข่ายโลจิสติกส์และการขนส่งจังหวัดนครราชสีมาในปี 2561 ต่อเนื่องจนถึงปี 2565 พบว่า มีพื้นที่ที่มีความเหมาะสมที่จะสร้างท่าเรือบกอยู่ 2 แห่ง คือ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน และบริเวณสถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะเลือกพื้นที่ใดเป็นที่ตั้งของท่าเรือบก จึงขอฝากไปยังกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะการท่าเรือแห่งประเทศไทย เร่งรัดดำเนินการตัดสินใจเลือกพื้นที่ตั้งของท่าเรือบก เพื่อให้การพัฒนาท่าเรือบกนครราชสีมาเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในเวลาอันควร รองรับต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมขนส่งและการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างเหมาะสมทันต่อเหตุการณ์อย่างไร้รอยต่อ