ซ้ำเติมโควิด ! อาศัยความคุ้นเคย ก่อนขโมยทรัพย์สินในกระเป๋า ของยาย ได้เงินสด 24,000 บาท

ซ้ำเติมโควิด ! หญิงกลางคนอาศัยความคุ้นเคย ทำทีมาซื้อของกับยายวัย 81 ปี ก่อนลอบขโมยทรัพย์สินในกระเป๋า ได้เงินสด 24,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ บัตร ปชช. วงจรปิดจับภาพได้ชัด ตำรวจรวบตัวได้สารภาพนำเงินไปใช้หนี้การพนันหมดแล้ว

นครราชสีมา – นางชอบ ฟาดสูงเนิน อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 บ้านเหมืองลี่ หมู่ 7 ตำบลโค้งยาง อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในช่วงที่โควิด 19 ระบาดรุนแรงจนต้องประกาศให้จังหวัดนครราชสีมา เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สีแดงเข้ม ทำให้ลูกค้าหดหาย รายได้ลด ขายของแทบจะไม่ได้ แต่กลับมีมิจฉาชีพเข้ามาซ้ำเติมความเดือดร้อน ขโมยทรัพย์สินของตนถึงภายในบ้าน เมื่อวานนี้ ( 9 สิงหาคม 2564 ) เวลาประมาณ 10.00 น. ทำให้ต้องสูญเงินที่ได้จากการขายของไป 24,000 บาท นอกจากนี้ ยังขโมยโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และบัตรประจำตัวประชาชนของตนไปด้วยอีก 1 ใบ

เมื่อไปตรวจกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งเอาไว้ในบ้าน ก็พบว่า หัวขโมยดังกล่าว เป็นเป็นหญิงวัยกลางคน และคุ้นหน้าว่า เคยมาซื้อของกับตนหลายครั้ง แต่น่าจะเป็นคนจากหมู่บ้านอื่น ลักษณะสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงวอร์มขายาว ถือถุงพลาสติกมา 1 ถุง แล้วทำท่าลับๆ ล่อๆ มองซ้ายขวา ก่อนจะไปหยิบกระเป๋าเงินของตนที่วางไว้ แล้วหลบหนีไป ซึ่งช่วงที่หญิงวัยกลางคนเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ตนกำลังก่อไฟอยู่หน้าบ้าน น่าจะมาดูลาดเลาหลายครั้ง แล้วอาศัยจังหวะที่ตนเผลอ ฉกเงินและทรัพย์สินในกระเป๋า แล้วรับออกจากร้านไป

และเมื่อตนเดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง ก็พบว่า กระเป๋าที่วางไว้ถูกรื้อค้น ตรวจเช็คดู พบว่าเงินสดและทรัพย์สินหายไปดังกล่าว จึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สูงเนินแล้ว ต่อมาวันนี้ (10 ส.ค.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์แจ้งว่า สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว จึงให้ตนเองไปดูตัว ซึ่งก็พบว่าเป็นหญิงอายุ 47 ปี (สงวนชื่อ) ที่เคยรู้จักกันในตลาด เพราะเคยไปขายของในตลาด อ.สูงเนิน ด้วยกัน โดยเป็นคนในหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งติดการพนันมาก ตนเองจึงถามถึงเงินของที่ขโมยไป แต่หญิงคนดังกล่าวบอกว่า เงินได้เอาไปใช้หนี้การพนันหมดแล้ว ส่วนโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินที่มีบัตรสำคัญหลายอย่างก็หายไปด้วย ตนจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ตอนนี้สิ่งที่น่าเจ็บใจมากก็คือ เงินจำนวน 24,000 บาทนี้ เป็นเงินเก็บของตนที่จะเอาไปใช้หนี้เขา กำลังจะเอาไปใช้หนี้แต่มาหายเสียก่อน และอีกอย่างโทรศัพท์มือเครื่องนี้ ก็เพิ่งซื้อมาได้เพียงแค่วันเดียว ยังใช้ไม่เป็นเลย ก็มาหายไปซะแล้ว ไม่คิดว่าคนนี้จะมาขโมยของกลางวันแสกๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกคนเข้ามาขโมยของไปแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ถูกขโมยเงินไปกว่า 30,000 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อต้นปีนี้ ถูกขโมยเงินไป 10,000 กว่าบาท ตนจึงได้ให้ลูกหลานนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งให้ 4 ตัวรอบบ้าน จนกระทั่งครั้งนี้ขโมยเข้าบ้านเป็นรอบที่ 3 กล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน ทำให้มีหลักฐานไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถจับตัวคนร้ายได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกัน นางชอบกล่าว.

//////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา