คืบ สอบ ผอ.รพ.โคราช นำวัคซีนไฟเซอร์ ฉีดผิดเงื่อนไข สสจ.เร่ง กก.สอบสวนข้อเท็จจริงและนิติกร สรุปข้อเท็จจริงส่งให้ตรวจสอบภายในวันนี้ เบื้องต้นผิดวินัยชัดเจน คาดปลายสัปดาห์หน้ารู้ผลวินิจฉัยโทษ
นครราชสีมา-ความคืบหน้ากรณีที่มีการแชร์ต่อในโลกโซเชี่ยล ถึงรายชื่อผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โควตาของโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่าในจำนวน 144 ราย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ มีรายชื่อของภรรยา ผอ.โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ที่ทำงานอยู่ในคลินิกเอกชน และสามีของหัวหน้ากลุ่มเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภค โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเปิดร้านขายยารวมอยู่ด้วย จนมีการวิพากษ์วิจารเป็นอย่างมาก ว่า ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เหตุใด จึงได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรมาให้ สำหรับฉีดบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ทำให้นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยแต่งตั้ง นพ.วิชาญ คิดเห็น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
ซึ่งล่าสุด วันนี้ (19 สิงหาคม 2564) นพ.วิชาญฯ ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยความคืบหน้าการรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงว่า ได้สรุปผลดำเนินการร่วมกับนิติกรเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดที่สุดทุกขั้นตอน เหลือเพียงการลงนามยืนยันในเอกสารการสอบสวนเท่านั้น ที่บุคลากรทางกรแพทย์ที่ถูกสอบแต่ละรายจะต้องเซ็นต์รับรองเอกสาร เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ดังนั้น กระบวนการสอบสวนทุกเรื่อง ขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการด้วยความถูกต้อง โปร่งใส และยุติธรรม ส่วนผู้ถูกสอบทุกคนก็ต้องเซ็นต์ลงนามกำกับยืนยันเอกสารการสอบสวนด้วยตามระเบียบราชการ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้แจ้งข้อเท็จจริงและผลการสอบให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาได้ทราบไปแล้ว
โดยข้อเท็จจริงที่สอบสวนได้ 141 ราย ตรวจสอบแล้วเป็นบุคลากรด่านหน้าจริง ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก ตรงตามเงื่อนไขที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ กำหนด ส่วนอีก 3 ราย ได้แก่ ภรรยา ผอ.รพ.เฉลิมพระเกียรติ ,สามี หัวหน้ากลุ่มเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภค รพ.เฉลิมพระเกียรติ และลูกจ้างร้านขายยาของหัวหน้ากลุ่มเภสัชกรรมฯ ดังกล่าว ) ตรวจสอบแล้วได้รับวัคซีนไฟเซอร์จริง แต่เงื่อนไขกำหนดให้รับวัคซีนในล็อตอื่น ไม่ใช่ล็อตแรกนี้ ดังนั้น จึงถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งการสอบสวนข้อเท็จจริงไม่พบข้อมูลผิดปกติอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ โดยหากให้ผู้ถูกสอบแต่ละรายลงนามรับรองเอกสารการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว จะรีบยื่นเสนอให้ผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาโดยเร็ว
ด้านนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตอนนี้ ยังไม่ได้รับเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจะได้เร่งรัดให้เสร็จภายในวันนี้ ในขณะเดียวกัน ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นอีกชุด เพื่อร่วมกันสอบสวนทางวินัยและพิจารณาตัดสินโทษ โดยเชิญนิติกรจากระทรวงสาธารณสุขเข้ามาช่วย มาร่วมพิจารณาวินิจฉัยว่าเข้าข่ายใดบ้าง และเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายของกระทรวงฯ ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าฝืนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชา หรือความผิดด้านจริยธรรม ว่า มีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างไร แล้วมีเจตนาที่จะกระทำการอย่างไร รวมไปถึง กรณีที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าว สมควรที่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ในล็อตแรกหรือล็อตอื่นๆ หรือไม่ ต้องแยกพิจารณาเป็นรายบุคคลออกไปอีก จึงต้องขอเวลาวิเคราะห์ข้อมูลและพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะวินิจฉัยตัดสินโทษลงไป เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์และยุติธรรม ซึ่งเบื้องต้นเป็นการทำผิดวินัยชัดเจน คาดว่า ภายในปลายสัปดาห์หน้า จะสามารถสรุปผลการวินิจฉัยความผิดได้เรียบร้อย ก่อนลงโทษตามลำดับต่อไป
//////////////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา
Recent Comments