โควิดโคราช ติดเชื้อลดต่อเนื่อง พบรายใหม่ไม่ถึง 1,500 ราย ขณะที่ศึกษาธิการจังหวัดฯ เตรียมพร้อมรับเปิดเทอม ย้ำสถานศึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
นครราชสีมา-วันนี้ (10 พฤษภาคม 2565) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครรสีมา ได้ประชุมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดฯ ซึ่งศูนย์โควิด 19 โคราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ รายงานว่า วันนี้ มีผู้ป่วยรายใหม่ 1,430 ราย จากการตรวจ RT-PCR ยืนยันติดเชื้อ 185 ราย กับผลตรวจ ATK เป็นบวก เข้าข่ายติดเชื้ออีก 1,245 ราย และมีผู้เสียชีวิต 4 ราย โดยทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ 78-91 ปี และมีโรคประจำตัว โดย 3 ราย ไม่มีประวัติฉีดวัคซีนเลย ส่วนอีก 1 รายฉีดวัคซีนแล้ว 3 เข็ม ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน มียอดเสียชีวิตสะสม อยู่ที่ 230 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตาย 0.15 % ส่วนยอดผู้ป่วยสะสม อยู่ที่ 150,927 ราย แต่รักษาหายแล้ว 126,605 ราย และยังรักษาตัวอยู่ 24,092 ราย โดยผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ ส่วนใหญ่กว่า 97 % เป็นผู้ป่วยเคสสีเขียว อาการน้อยหรือไม่แสดงอาการ จำนวน 23,323 ราย ในขณะที่ผู้ป่วยเคสสีเหลือง อาการปานกลาง มีประมาณ 2.1 % จำนวน 661 ราย และผู้ป่วยเคสสีแดง อาการหนัก มีจำนวน 108 ราย หรือไม่ถึง 1 %
ส่วนผลดำเนินงานตรวจหาเชื้อเชิงรุก ที่จุดบริการหน้าศาลากลางจังหวัด “ต้นโพธิ์โมเดล” ที่เปิดให้บริการตรวจ ATK ฟรีแก่ประชาชนมาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2564 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มีประชาชนเข้ารับการตรวจแล้วกว่า 114,000 ราย พบ ATK เป็นบวก เข้าข่ายติดเชื้อ ประมาณ 16 % ซึ่งช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ พบผู้เข้าข่ายติดเชื้อ ประมาณ 14 % พอช่วงสงกรานต์พบติดเชื้อ เพิ่มเป็น 22 % และหลังสงกรานต์เป็นต้นมาพบติดเชื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 6.1 % เท่านั้น ซึ่งแนวโน้มตรวจ ATK ผลเป็นบวก ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ทางจังหวัดฯ ยังคงเปิดให้บริการต่อไปทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เวลา 10.00 -15.00 น. แต่วันที่ 13-15 พฤษภาคม 2565 จะขอหยุดบริการชั่วคราว เพื่อเคลียร์พื้นที่ทำความสะอาด และอัพเดทจัดทำข้อมูล
และสำหรับมาตรการเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียน ปี 2565 ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565ที่จะถึง ทางศึกษาธิการจังหวัดฯ รายงานว่า เป็นการเปิดภาคเรียน แบบ On Site 100 % ได้วางแนวทางเฝ้าระวังและมาตรการควบคุมป้องกันไว้แล้ว ซึ่งสอดรับกับนโยบายของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ โดยให้สถานศึกษาแต่ละแห่งดำเนินตามนโยบายอย่างเคร่งครัดเพื่อตัดความเสี่ยง เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ให้ปฏิบัติตามหลัก 3T 1V ได้แก่ T : Thai Stop Covid Plus + สถานศึกษาต้องประเมินตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดเรียน , T : Thai Save Thai นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษามีการประเมินความเสี่ยงตนเองเป็นประจำ , T : Test ตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังอย่างเหมาะสม เช่น ATK เมื่อมีความเสี่ยงหรือมีอาการ และ V :Vaccine ครู บุคลากร ผู้ปกครอง และเด็ก อายุ 5-18 ปี ได้รับวัคซีนโควิด 19 ตามเกณฑ์
นอกจากนี้ สถานศึกษาต้องปฏิบัติตาม 6 มาตรการหลักสร้างความปลอดภัย ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตรวจคัดกรอง ลดแออัด ทำความสะอาด ร่วมกับ 6 มาตรการเสริม ในเรื่องการดูแลตนเอง ใช้ช้อนส่วนตัว ทานอาหารปรุงสุกใหม่ ลงทะเบียนเข้า-ออกสถานศึกษา สำรวจตรวจสอบตัวเอง กักกันตนเองเมื่อพบว่าป่วยหรือมีความเสี่ยงติดเชื้อ และปฏิบัติตาม 7 มาตรการเข้ม ได้แก่
1.ประเมินความพร้อมเปิดเรียน ผ่านแอพฯ Thai Stop COVID Plus และรายงานผลผ่านระบบ MOE COVID ของกระทรวงศึกษาธิการ
2.ทำกิจกรรมกลุ่มย่อย Small Bubble
3.จัดระบบให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ
4.มีอนามัยสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐาน
5.มีแผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อม รวมถึง การเตรียมพร้อม School Isolation
6.ควบคุมดูแลการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนให้ปลอดภัย Seal Route เน้นมาตรการปลอดภัยรถโรงเรียน ทั้งกรณีรถรับ-ส่งนักเรียน รถส่วนบุคคล และรถสาธารณะ
7.จัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรภายในสถานศึกษา ,มีผลประเมินความเสี่ยงการแพร่เชื้อ Thai Save Thai ,ผลตรวจ ATK ภายใน 7 วัน และมีประวัติการรับวัคซีน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยเมื่อเข้า-ออกโรงเรียน .
Recent Comments