“ปราสาทเมืองแขก ลุกโชติ อวดโฉม งาน “THAI FIGHT สูงเนิน”

“ปราสาทเมืองแขก ลุกโชติ อวดโฉม
งาน “THAI FIGHT สูงเนิน”

โคราชบ้านเอง ร่วมจัด “THAI FIGHT สูงเนิน”
ส่งเสริมการท่องเที่ยว ชุมชนโบราณสองพันกว่าปี ต้นกำเนิดเมืองโคราช “ปราสาทเมืองแขก” ไฮไลต์ แสง สี อวดโฉมงดงามยิ่งใหญ่อลังการ

นายสมบัติ กาญจนวัฒนา รองเลขาธิการพรรคชาติพัฒนา อดีตประธานสภา อบจ.นม.กล่าวว่าการจัดงาน “THAI FIGHT สูงเนิน” ในครั้งนี้ คอแฟนหมัดมวยจะได้เร้าใจกับมวยคาดเชือก นำทีมโดย แสนชัย, กิตติ, เต็งหนึ่ง, ป.ต.ท., ไทรโยค, น้องโอ, เวโร และการกลับมาของ สุดสาคร พร้อมด้วย เพชรธงชัย แชมป์มวยรอบอีซูซุคัพ ครั้งที่ 31 ตัดเชือกกับ สุขสวัสดิ์ ในศึก Isuzu Cup Super Fight 2022 บนเวทีมวยเต็มรูปแบบในวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2565 ณ ปราสาทเมืองแขก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา และเริ่มถ่ายทอดสดเวลา 18.00-21.40 น. ทางช่อง 8 (กดเลข 27) แล้ว

ไฮไลต์สำคัญ ภายในงานยังได้มีการจัดแสดงไฟ แสง สี บริเวณรอบปราสาทเมืองแขก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงดงามของตัวปราสาทในยามค่ำคืน มาถ่ายภาพ มาเช็คอินว่าเมืองสูงเนิน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงอารยธรรมที่งดงาม

“เราต้องให้นักท่องเที่ยวได้เห็นปราสาทเมืองแขก โบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวสูงเนินว่างดงามล้ำค่า เป็นสถานที่จัดงาน”กินเข่าค่ำ”แสดง แสง สี เสียง ชุด “ศรีจนาศะปุระ” อารยธรรมโบราณสถานกว่าสองพันปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม มาช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด วันนี้เราเปิดเมือง เปิดประเทศแล้วต้องมาช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้โคราชคึกคัก” นายสมบัติ กล่าว

“ปราสาทเมืองแขก” เป็นศาสนสถานแบบศิลปะขอม ที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโคราช ก่อด้วยอิฐปนทราย มีปราสาท 3 หลัง แบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ด้านนอกเป็นแนวคูน้ำขนานกับแนวคันดินเกือบรอบโบราณสถาน ทางด้านเหนือมีประตูหรือโคปุระ เป็นทางเดินเชื่อมไปยังด้านใน ซึ่งมีซากฐานปราสาทสามองค์ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันโดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ พ้นจากแนวคูน้ำคันดินออกไปนอกสุด มีซากอาคารสองหลังสร้างหันหน้าเข้าหากัน อาคารทั้งสองหลังนี้มีแนวกำแพงล้อมรอบ

เมื่อคราวที่กรมศิลปากรบูรณะ ได้พบทับหลังสลักลายก้านต่อดอกซึ่งเทียบได้กับลวดลายในศิลปะเขมรโบรณสมัยบันทายศรี ราวปี พ.ศ. 1510-1550

นอกจากนี้ ยังพบศิลาจารึกที่ถูกนำมาก่อเป็นฐานประตูซุ้มชั้นนอกระบุปี พ.ศ. 1514 และพ .ศ. 1517 นักโบราณคดีจึงสันนิษฐานจากหลักฐานที่พบทั้งหมดว่า ปราสาทแห่งนี้น่าจะเป็นศาสนสถาน ในคติฮินดูหรือพรามณ์ ที่สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อประกอบพิธีกรรมถวายแด่พระศิวะ