“เทวัญ” ชี้ 3 องค์หลัก “ชุมชน-สตรี-อสม.
“หัวใจหลัก” พัฒนาเมืองโคราชแบบยังยืน

“เทวัญ” ชี้ 3 องค์หลัก “ชุมชน-สตรี-อสม.
“หัวใจหลัก” พัฒนาเมืองโคราชแบบยั่งยืน

เทศบาลโคราช จัดโครงการเวทีชุมชน ประจำปี 2565 เพื่อขับเคลื่อนยุทธ์ศาสตร์การพัฒนาโคราช ผ่าน 3 องค์กรหลักของชุมชนในการพัฒนาโคราชให้เป็นเมืองน่าอยู่แบบยังยืน

วันที่ 20 มีนาคม 2564 เวลา 9.30 น.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นายนัฏฐชัยฐ์  ธนกนกนนทณ์ รองนายกเทศมนตรีฯ นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีฯ นายอุทัย มิ่งขวัญ ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา ส.จ.รัชฎา ใจกล้า ส.จ.ก้องเกียรติ วงศ์นิยม และคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา (ส.ท.) ลงพื้นที่พบปะกับคณะกรรมการชุมชน คณะกรรมการพัฒนาสตรี และอสม.ในพื้นที่ชุมชนหลังวัดสามัคคี, อบอุ่นพัฒนา, ปลายนาสามัคคี, 30 กันยาพัฒนา, สวนหม่อนพัฒนา, หลังวัดสุทธจินดา, วัดหนองบัวรอง และท่าตะโกพัฒนา

นายเทวัญ กล่าวว่า วันนี้เทศบาลจัด “โครงการเวทีชุมชน ประจำปี 2565” ซึ่งเป็นโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองโคราช โดย 3 องค์กรหลักคือ กลุ่มชุมชน กลุ่มพัฒนาสตรีเมือง และอสม.ซึ่งถือเป็น 3 ประสาน หัวใจหลัก หัวใจสำคัญ เพราะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชนในชุมชนมากที่สุด ในการที่จะสร้างความสามัคคี การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ในการพัฒนาเมืองโคราชให้เป็นเมืองน่าอยู่แบบยังยืน

โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม วันนี้เราต้องมาบูรณาการเรื่องน้ำได้แล้ว คือ 1.น้ำต้องไม่ท่วมแล้วโคราช ยิ่งช่วงหน้ามรสุมน้ำฝนตกหลังเขื่อน ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ และลำตะคองเออล้น เราต้องทำลำตะคองให้สูงขึ้น และทำสองฝั่งลำตะคองเหนือเขื่อนให้รองรับน้ำ และทำให้สวยๆ เหมือนต่างประเทศ ซึ่งเทศบาลเรากำลังจะจัดหางบประมาณ เพื่อนำมาดำเนินการ ถ้ามอเตอร์เวย์สายปางประอิน-โคราช เปิดจะทำให้ การคมนาคมสะดวกขึ้นและทำให้เมืองโคราชเป็นเมืองสำคัญในด้านคมนาคม ใครจะไปอีสานต้องผ่าน กรุงเทพ-โคราช มานั่งมอเตอร์เวย์ไป มอเตอร์เวย์ใช้ระยะทางประมาณเกือบ 200 กม. แต่ถ้าเป็นทางพิเศษ วิ่งไปประมาณ 40-50 กม. โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงลำตะคองจะเห็นสะพานอยู่ตรงกลาง ตรงนั้นคือมอเตอร์เวย์ ซึ่งมีความสวยงามมาก เป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทย

นายเทวัญ กล่าวว่าเศรษฐกิจมันแย่ เราต้องยอมเปิดประเทศ เราเคยมีนักท่องเที่ยวปีละ 30-50 ล้านคน ถ้าไม่ติดโควิด เราจะมีนักท่องเที่ยวปีหนึ่ง 40 ล้านคน ซึ่งนักท่องเที่ยว 1 คนจะมีการจับจ่ายใช้เงินต่อคนประมาณ 50,000 บาท จากการสำรวจ เท่ากับมีเงินหมุนเวียนในการท่องเที่ยว 2 ล้านล้าน หมุนอยู่ในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านสปา แหล่งท่องเที่ยว ช้อปปี้ง แต่ ณ วันนี้ เป็น 0 รัฐบาลตอนนี้ก็มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาก็มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นโครงคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน หลายๆโครงการ

“ถ้าวันนี้ยังปิดเศรษฐกิจแย่ อาจจะต้องยอมเปิด เพื่อให้มันผ่อนคลาย ตอนนี้ถ้าใครค้าขายเงียบหมด เราต้องยอมเปิดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เราก็ต้องร่วมมือเทศบาลด้วย ให้ทางเทศบาลจัดงานเทศกาลและกิจกรรมเยอะๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดสงกรานต์ จัดเข้าพรรษา แห่เทียนเข้าพรรษา โดยเฉพาะเดือนนี้ เรามีวันสำคัญ อาทิตย์หน้า วันฉลองชัยชนะ คุณย่าโม อย่างนี้ต้องจัด เพื่อให้คนได้ออกมาใช้จ่ายเงิน เมื่อก่อน รถบัสมาจอดเต็มลานย่าโม มากราบไหว้คุณย่า แต่วันนี้เราเหลือ รถบิกอัพ เพราะตอนนี้นักท่องเที่ยวไม่มี ร้านอาหารขายของฝาก เพลงโคราช ก็ไม่มีคนมาใช้บริการ เราต้องช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจโคราช”นายเทวัญ กล่าว

ด้าน นายประเสริฐ กล่าว่าตามนโยบายที่เราได้แถลงต่อสภา เป็นนโยบายเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องคนในเขตเทศบาล เพื่อให้เป็นเมืองที่น่าอยู่แบบอย่างยั่งยืน สะอาด เรียบร้อย อากาศดี ปลอดภัย คือ เราจะปรับภูมิทัศน์ของเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมืองและพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองโคราช ซึ่งเมืองโคราช เป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองกีฬา และเมืองเศรษฐกิจค้าขายอุตสาหกรรม โคราชเป็นเมืองสำคัญ ซึ่งจะประสบความสำเร็จได้ ถ้าเราร่วมพลังกันร่วมมือกัน โดยเฉพาะผู้นำคณะกรรมการชุมชน ท่านจะเป็นศูนย์กลางในการทำงานประสาน ทั้ง อสม .แม่บ้าน

“อสม. มีบทบาทในเรื่องของสุขภาพ สุขภาวะ ควบคุมโรค ป้องกันโรค และมีกิจกรรมของท่าน โครงการพระราชดำริ หรือการพัฒนา ทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนแข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย และไม่เสียเวลาในการทำมาหากิน คนที่เกิดมา แล้วเป็นคนโชคดีคือ คนที่มีสุขภาพที่ดี สังคมที่ต้องการ คือ การสร้างความสามัคคีในชุมชน ไม่แบ่งฟักแบ่งฝ่าย ต้องหาวิธีคุยกัน ความโกธร ความเกลียด จะทำลายจิตใจท่าน ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายสุขภาพตัวเอง ทำโกธร ทำให้เป็นทุกข์ ความเกลียดทำให้เป็นทุกข์ 96 ชุมชน ต้องพัฒนาแข่งขันกัน ชุมชนไหนสามัคคีร่วมมือกันจะประสบความสำเร็จ “การมีส่วนร่วม” เป็นคำที่ยิ่งใหญ่ ทุกชุมชนและทั่วโลกใช้กัน ต้องมีการประชาสัมพันธ์ ซึ่งต่างประเทศก็มองว่าชุมชนไหนที่น่าอยู่ เค้ามาอยู่มาเห็นเค้าก็ชื่นชม” นายกฯ ประเสริฐ กล่าว