ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ร่วมส่ง “3 ผู้หนีร้อนมาพึ่งเย็น” จากวิกฤตโควิด ล๊อคดาว์ท 2 กลับบ้านปลอดภัย
จากกรณี ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขตำบลหมื่นไวย อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา และศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ได้ให้ความช่วยเหลือแรงงาน 3 คน คือ นางสาวพรพรรณ เสละคร เป็นคนสุพรรณบุรี นางสาวปรางทิพย์โคหมดเขียว เป็นคนเพชรบูรณ์ นายสมบูรณ์ ฉิมสังคนันท์ เป็นคนเพชรบูรณ์ แต่มาทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัว มาเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อบ่ายวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 และระหว่างรอผลตรวจเชื้อ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ได้ขับรถมาจอดหลบพักนอนค้างคืนอยู่ภายในศาลาวัดบ้านโคกไผ่ ชุมชนประโดก-โคกไผ่ ต.หมื่นไวย อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งแต่ละคนมีอาการไอ แน่นหน้าอก และจมูกไม่ได้กลิ่น สร้างความหวาดผวาแก่พระภิกษุ สามเณร และญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด แต่เมื่อผู้นำชุมชน และ อสม.ทราบข่าว ก็รีบเข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือ โดยกันพื้นที่ และจัดหาอาหารน้ำดื่มมาให้ จน รพ.มหาราชนครราชสีมา ยืนยันผลว่า ทั้ง 3 รายติดเชื้อโควิด-19 จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่ฯ ให้มารับตัวไปรักษาที่ รพ.มหาราชฯ ทันที
จนกระทั่ง วันนี้ ( 29 กรกฎาคม 64) ผู้ป่วยทั้ง 3 คน หายเป็นปกติพร้อมเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพฯแล้ว ซึ่งก่อนกลับทั้ง 3 คน ได้กล่าว
“ขอขอบคุณ “ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” สุวัจน์ ลิปตพัลล ประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ส.ส.วัชรพล โตมรศักดิ์ แพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ของรพ.มหาราช ,รพ.สนาม ,ผู้นำท้องถิ่น, ชาวบ้านต.หมื่นไวย ,เจ้าหน้าที่ อสม. และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ที่ได้เมตตาให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ และติดตามห่วงใยให้กำลังใจตลอดระยะเวลาที่รักษาตัวอยู่ในจังหวัด ทั้งๆที่ตนและเพื่อนไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่ได้มีภูลำเนาที่จังหวัดนครราชสีมา และไม่มีญาติพี่น้องที่นี่ แต่ชาวโคราชและเจ้าหน้าที่ทุกคนทุกฝ่ายต่างให้ความช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยอย่างดีมาก
“หลังจากนี้ จะต้องกลับไปเผชิญกับวิกฤติโควิดที่กรุงเทพฯ ต่อ ขอให้ทุกคนได้ดูแลตัวเองดีๆ ป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ อย่าให้ติดเชื้อโควิด 19 เหมือนกับตนเองและเพื่อน ที่ต้องเดือดร้อนตะลอนหาที่ตรวจ หาที่รักษาตัว กันอย่างยากลำบาก แต่เคสของตนเองและเพื่อน ถือว่าโชคดีที่สุดที่ตัดสินใจมารักษาตัวที่จังหวัดนครราชสีมา แล้วได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากทุกฝ่าย ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ”
ในการส่งตัวทั้ง 3 คน กลับมาในวันนี้มี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ส.ส.วัชรพล โตมรศักดิ์ แพทย์ พยาบาล รพ.มหาราช ผู้นำท้องตำบลหมื่นไวย์ มาให้กำลังและมอบของที่ระลึกจากชาวโคราช
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวให้กำลังใจและขอให้กลับไปรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกาย ป้องกันตนเองจากโรคโควิด เพราะมีความรู้ในการดูแลตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว
“วันนี้ ทางศูนย์ฯ โดยท่านสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษา ให้ผมเป็นตัวแทนมอบของที่ระลึกจากชาวโคราช ซึ่งในนี้มีเสื้อสวาทแคท และเหรียญหลวงพ่อคูณ ให้เป็นกำลังใจ ต่อสู้ต่อไป” นพ.วรรณรัตน์ กล่าว
ต่อมาทราบว่า ผู้ป่วย 2 ราย ติดโควิด รายหนึ่งเป็นชาว ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี แต่ไปทำงานค้าขาย และอาศัยอยู่ที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ในเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ส่วนอีกรายเป็นชาว จ.เพชรบูรณ์ ทำอาชีพค้าขายและอาศัยอยู่แมนชั่นเดียวกัน ซึ่งแม้ว่าทั้ง 3 ราย จะไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา แต่ทุกฝ่ายในจังหวัดฯ ได้ให้ความช่วยเหลือดูแลกันอย่างเต็มที่ ทำให้ผู้ติดเชื้อทั้ง 3 รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจอย่างมากที่ชาวโคราชมอบให้ในยามตกทุกข์ได้ยาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (29 กรกฎาคม 2564) ผู้ป่วยทั้ง 3 ราย พร้อมออกจากโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 3 เพื่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งก่อนกลับทั้ง 3 คน ได้กล่าว
“ขอขอบคุณ “ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” สุวัจน์ ลิปตพัลล ประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ส.ส.วัชรพล โตมรศักดิ์ แพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ของรพ.มหาราช ,รพ.สนาม ,ผู้นำท้องถิ่น, ชาวบ้านต.หมื่นไวย ,เจ้าหน้าที่ อสม. และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ที่ได้เมตตาให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ และติดตามห่วงใยให้กำลังใจตลอดระยะเวลาที่รักษาตัวอยู่ในจังหวัด ทั้งๆที่ตนและเพื่อนไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่ได้มีภูลำเนาที่จังหวัดนครราชสีมา และไม่มีญาติพี่น้องที่นี่ แต่ชาวโคราชและเจ้าหน้าที่ทุกคนทุกฝ่ายต่างให้ความช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยอย่างดีมาก
“หลังจากนี้ จะต้องกลับไปเผชิญกับวิกฤติโควิดที่กรุงเทพฯ ต่อ ขอให้ทุกคนได้ดูแลตัวเองดีๆ ป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ อย่าให้ติดเชื้อโควิด 19 เหมือนกับตนเองและเพื่อน ที่ต้องเดือดร้อนตะลอนหาที่ตรวจ หาที่รักษาตัว กันอย่างยากลำบาก แต่เคสของตนเองและเพื่อน ถือว่าโชคดีที่สุดที่ตัดสินใจมารักษาตัวที่จังหวัดนครราชสีมา แล้วได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากทุกฝ่าย ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ”
Recent Comments