สุวัจน์…ขอเป็นกำลังใจให้คนไทย ผ่านวิกฤตโควิดรอบนี้ ไปด้วยกัน

ท่ามกลางการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ สงครามชีวะภาพ ประชาชนต้องเผชิญกับวิกฤติจากเชื้อไวรัสมรณะ ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมแรงร่วมใจกันช่วยบรรเทาความเดือดของประชาชน เพื่อเป็นกำลังใจให้เราฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน ดังเช่น

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เห็นความเดือนร้อนของประชาชน ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยพี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมามาตั้งแต่โควิดระบาดรอบแรกเมื่อปี 2563 โดยร่วมกับกลุ่ม องค์กร นักธุรกิจ ภาคประชาชน ในจังหวัดนครราชสีมา จัดตั้งเป็น “ศูนย์ตนโคราช รักจริงไม่ทิ้งกัน” สู้โควิด-19 ล่าสุด ได้ส่งสารผ่านโซเชี่ยลมีเดีย เน้นย้ำให้นักการเมือง ออกมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เนื้อหาระบุว่า

“ช่วงนี้เป็นช่วงที่พี่น้องประชาชนลำบากมากที่สุด ตั้งแต่พวกเราอยู่ในวงการเมือง ฉะนั้น ต้องบอกพวกเราทุกคน ส.ส.,ส.จ.,ส.ท. ให้ลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ทุกวัน ทุกโอกาส เป็นความรับผิดชอบของพวกเราในฐานะที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนเขาจะได้รู้สึกว่ามีกำลังใจที่จะต่อสู้กันต่อไป เราจะระลึกถึงกันเสมอ”…

ซึ่งนักการเมืองระดับประเทศ ระดับท้องถิ่นของพรรคชาติพัฒนา ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวโคราชทุกวัน ทุกโอกาส ได้นำหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ อาหาร น้ำ ถุงน้ำใจ ร่วมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลมหาราช โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (รพ.มทส.) และรพ.สต.ทุกตำบล โดยจะมีป้ายติดทุกชุมชนว่า “ศูนย์ตนโคราช รักจริงไม่ทิ้งกัน” ร่วมกับพรรคชาติพัฒนา สู้ภัยโควิด-19 ให้บริการลงทะจองสิทธิ์ฉีดวัคซีนโควิด-19 และรับเรื่องราวร้องทุกข์ โทร.063-756-4411, 083-939-6691, 083-939-6694” ซึ่งความช่วยเหลือดังกล่าว ของศูนย์ตนโคราช รักจริงไม่ทิ้งกัน ได้ช่วยบรรเทาความเดือดของพี่น้องชาวโคราชอย่างเห็นได้ชัด

ล่าสุด จากป้ายประกาศดังกล่าว ได้ช่วยชีวิตหนุ่มสาวโรงงาน 3 คน ติดโควิด-19 ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราช เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิดเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ไม่กล้าเข้าพักรร.เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง ขับรถตระเวรรอบเมืองโคราชจนมาพบป้ายศูนย์ตนโคราช รักจริงไม่ทิ้งกัน หน้าวัดเวฬุวนาราม โคกไผ่ ต.หมื่นไวย อ.เมืองจ.นครราชสีมา จึงตัดสินใจเข้ามานอนในวัดและโทร.หาศูนย์ฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ

“ตนและเพื่อนตัดสินใจหาที่พึ่งสุดท้าย หากรอเตียงคงไม่ไหวแน่ ได้เดินทางมาถึง รพ.มหาราช และเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ซึ่งต้องรอผลประมาณ 10-12 ชั่วโมง ขณะนั้น อาการป่วยกำเริบมากขึ้น การเข้าพักตามโรงแรม กลัวจะแพร่เชื้อให้คนอื่น จึงขับรถยนต์ตระเวนหาสถานที่พักที่อยู่ห่างไกลจากชุมชน มาเห็นป้ายที่วัด ขึ้นป้ายว่า “ศูนย์ตนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” และเห็นรายละเอียด ว่ารับเรื่องร้องทุกข์ จึงตัดสินใจจอดนอนรอที่ศาลาวัดโคกไผ่ ชุมชนประโดกโคกไผ่ ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา” หนึ่งในผู้ติดเชื้อ กล่าวและบอกว่า

“หลังจากนั้น พวกเราได้รับการช่วยเหลือจากทางวัด ผู้นำชุมชน อสม.นำอาหาร น้ำดื่ม พัดลมมาให้ ให้ใช้ห้องน้ำวัดได้ ให้ที่หลับที่นอน เดชะบุญชาวโคราชให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดีประทับใจมากใจดีมากๆ ไม่รู้จะพูดยังไง มันลำบากเรื่องที่พัก ต้องนอนรอในวัด ในรถ เพราะเรามีเชื้อ กลัวจะทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อน ตลอดเวลาที่พักอยู่ในวัดรู้สึกสบายใจขึ้น หายเครียด จนเช้าวันนี้ รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้มารับตัวไปรักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ล่าสุด หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันเสาร์ที่ 17 ก.ค.2564 คอลัมน์ “บุคคลในข่าว” หยิบยกมาเป็นประเด็นกระตุ้นให้นักการเมืองรุ่นหลังควรเอาเป็นตัวอย่าง ยามบ้านเมืองเดือดร้อนทั้งแผ่นดิน บ้านเมืองเกิดวิกฤติ นักการเมือง คือ คนของประชาชนต้องลงไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่

suwatสุวัจน์…ขอเป็นกำลังใจให้คนไทย ผ่านวิกฤตโควิดรอบนี้ ไปด้วยกัน