“ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” มอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร 1,000 ต้น ให้เรือนจำกลางโคราช ขยายผลผลิตแคปซูลสู้โควิด-19

“ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน”
มอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร 1,000 ต้น ให้เรือนจำกลางโคราช ขยายผลผลิตแคปซูลสู้โควิด-19

วันที่ 24 กันยายน 2564 เวลา 14.00 น.ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ได้มอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จำนวน 1,000 ต้น ให้นายเสกสรร จันทรทรัพย์ นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ เรือนจำกลางนครราชสีมา ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายแพทย์สมภพ สังคุตแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครราชสีมา เป็นตัวแทนในการรับมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจรในครั้งนี้

นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวว่าศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ยังคงเดินหน้าณรงค์ให้พี่น้องประชาชนชาวโคราชปลูกต้นฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรไทยทางเลือกในการต่อสู้กับโควิด-19

“วันนี้ได้มอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จำนวน 1,000 ต้น ให้ทางเรือนจำกลางนครราชสีมา ขยายผลในการเพาะปลูกพืชสมุนไพรทางเลือก เพื่อช่วยคนในเรือจำกว่า 3,000 คน ให้รอดพ้นจากโควิด-19 ทราบว่าเรือนจำมีพื้นที่พร้อมเพาะปลูก เพียงแต่ขาดต้นกล้าฟ้าทะลายโจรเราก็พร้อมสนับสนุน ยิ่งทราบว่าทางเรือนจำมีแผนจะขยายผลทำเป็นยาแคปซูลใช้ในเรือจำและจำหน่ายหากมีมากพอก็เป็นโอกาสอันดีที่เราจะร่วมกันต่อสู้กับโควิด”ผู้อำนายการศูนย์ฯ กล่าว

ด้านนายเสกสรร กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมมีนโยบายให้ทุกเรือจำทั่วประเทศจัดเตรียมพื้นที่เพาะปลูกต้นกล้าฟ้าทะลายโจร รวมทั้งสมุนไพรไทย เช่น กระชาย ขิง ข่า ตะไคร้ มะนาว ที่มีสรรพคุณทางยาในการยับยั้งการขยายตัวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะต้นฟ้าทะลายโจร

“วันนี้ได้รับการสนับสนุนต้นกล้าฟ้าทะลายโจร 1,000 ต้นจากศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เราก็จะขยายผลเพาะพันธุ์ต้นกล้าในแปลงสมุนไพร ในเรือนจำกลางนครราชสีมา ซึ่งวางแผนที่จะผลิตยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรใช้ภายในเรือจำที่เราต้องดูแลนักโทษกว่า 3,000 คน และหากในอนาคตเราสามารถพัฒนาเป็นยาและขออนุญาตอย.เป็นยาได้ก็สามารถทำการตลาดได้” นายเสกสรร กล่าวและย้ำว่า

ทางเรือจำกลางนครราชสีมายังมีโครงการพัฒนาพื้นที่จัดทำเป็น”โครงการโคก หนอง นา โมเดล ” ตามศาสตร์พระราชา เพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านการเกษตรให้กับนักโทษด้วย ซึ่งผลผลิตทางการเกษตรก็ใช้ภายในเรือจำ ส่วนนักโทษเมื่อพ้นโทษออกไปจะได้นำองค์ความรู้ไปประกอบอาชีพต่อไป